00 (แน่นอนว่าไม่มีดอกเบี้ยแบบนี้ในชีวิตจริง) ดอกเบี้ยร้อยละ 51 หรือ 50% คือ 0. 50 ดอกเบี้ยร้อยละ 5 หรือ 5% คือ 0. 05 n คือ จำนวนปีที่ลงทุน หรือจำนวนครั้งที่คุณได้ดอกเบี้ยตลอดการฝากเงิน (ในกรณีที่ได้ดอกเบี้ยมากกว่าปีละ 1 ครั้ง) ฝาก 10 ปีได้ดอกเบี้ยทุกเดือน n = 10 x 12 (เพราะใน 1 ปีมี 12 เดือน) = 120 ฝาก 5 ปีได้ดอกเบี้ยทุกครึ่งปี n = 5 x 2 (เพราะ 1 ปีจ่ายดอกเบี้ย 2 ครั้ง) = 10 ตัวอย่าง การคิดดอกเบี้บทบต้น ตัวอย่างที่ 1 นาย J นำเงินจำนวน 60, 000 บาทไปฝากธนาคารเป็นระยะเวลา 20 ปีได้รับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี โดยที่ไม่มีการฝากหรือถอนเงินจนกว่าจะครบ 20 ปี มาดูกันว่าสิ้นปีที่ 20 เงิน 60, 000 บาทของนาย J จะกลายเป็นเท่าไหร่ จากตัวอย่างเมื่อแทนค่าลง สูตรดอกเบี้ยทบต้น จะได้เท่ากับ 60, 000 x (1+0. 03)^20 = 108, 367 บาท เมื่อสิ้นสุดปีที่ 20 เงินของนาย J จะเพิ่มเป็น 108, 367 บาทจากเงินต้น 60, 000 บาท (เพิ่มขึ้น 48, 367 บาทจากดอกเบี้ยทบต้น 20 ปี) ตัวอย่างที่ 2 นาย K ฝากเงิน 100, 000 บาทเป็นเวลา 10 ปี โดยได้รับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือน (หรือ 12% ต่อปี) โดยที่ไม่มีการฝากหรือถอนเงินระหว่างช่วงเวลา 10 ปี จากตัวอย่างที่ 2 เมื่อทำการแทนค่าลงในสูตรดอกเบี้ยทบต้น จะได้เท่ากับ 100, 000 x (1+0.
สำหรับสายฟาร์มสิ่งที่เอาไว้ช่วยตัดสินใจในการเลือกว่าจะฟาร์มที่ไหนคือเรื่องของผลตอบแทนซึ่งมักจะอยู่ในรูปของ APR หรือ APY มันต่างกันยังไง?
มาดูกันครับ วิธีการง่าย ๆ ด้านล่างนี้แต่ช่วยคุณเพิ่มเงินในกระเป๋าแบบ Passive Income อย่างแน่นอน 1. ฝากเหรียญคริปโตแบบออมทรัพย์เพื่อรับดอกเบี้ยรายวัน วิธีแรกที่ผมคิดว่าเราทุกคนปั้มเงินจาก binance ได้ทุกคนเลยนั่นคือ การแลกเงินบาทของเรา เปลี่ยนมันเป็นเงิน USDT หรือเงิน BUSD ครับ จากนั้นเอาไปฝากไว้ในบัญชี Flexible Saving คุณจะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ 6% ต่อปี หรืออาจมากกว่านั้น ภาพแสดง ตัวอย่างอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในบัญชี Flexible Saving ของ binance ลองคิดดู! หากคุณฝากเงินที่เดือนละ 10, 000 บาท เป็นเวลา 10 ปีและคุณได้ดอกเบี้ยอัตรา 6% ต่อปี ผลลัพธ์ทางการเงินจะเป็นยังไง ดูตารางด้านล่างครับ ภาพแสดง ยอดเงินฝากเดือนละ 10, 000 บาท ดอกเบี้ย 6% ต่อปี ฝากครับ 10 ปี รับเงินต้น+ดอกเบี้ย 1, 650, 705 บาท เริ่มวันนี้ ส ม ัคร binance แล้วแลกเงินบาทเดือนละ 10, 000 บาทเป็น USDT หรือ BUSD จากนั้นฝากไว้ในโปรแกรม Flexible Saving เพื่อผลลัพธ์ในตารางข้างต้น! 2. ฝากเหรียญคริปโตแบบประจำเพื่อรับดอกเบี้ยที่สูงขึ้น วิธีหาเงินแบบที่สองนั้นเหมือนข้อ 1. เลยครับ เพียงแต่เปลี่ยนจากการฝากเงินแบบถอนเมื่อไหร่ก็ได้ เป็นการฝากเงินแบบกำหนดเวลาถอน เช่น 7 วัน 15 วัน 3 เดือนเป็นต้น ถ้าเราเลือกฝากเงินแบบนี้ ผลที่ได้รับคือ เราจะได้จำนวนดอกเบี้ยที่มากขึ้น ทำกำไรได้มากขึ้นครับ สำหรับบัญชีแบบนี้ที่ binance จะเรียกว่า Locked Saving ภาพแสดงอัตราดอกเบี้ยในบัญชีประเภท Locked Saving 3.
5. ซื้อเหรียญ BUSD สะสมไว้เพื่อรับดอกเบี้ยและสิทธิพิเศษ สำหรับวิธีหาเงินกับ binance ในข้อที่ 5 นั้นผมอยากให้ ดอกจันไว้หลาย ๆ ดอกจันครับ เพราะเป็นวิธีที่ความเสี่ยงต่ำที่สุด แต่ได้ผลตอบแทนสูงสุดครับ นั่นคือเอาเงินบาทไปซื้อเหรียญ BUSD แล้วไปกินดอกเบี้ย ตามกระเป๋า Wallet ต่าง ๆ ภาพแสดง: ดอกเบี้ย Binance USD Coin ณ วันที่ 25 มกราคม 2564 ข้อนี้คุณจะเห็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงมากคือ 14. 43% ที่ Celsius Network ซึ่งเป็นกระเป๋า crypto ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่วัยรุ่นครับ แล้วลองคิดดูว่า ด้วยโจทย์การฝากเงิน โดยเปลี่ยนเป็นเหรียญ BUSD ผลลัพธ์จะเป็นยังไง เมื่อครบ 10 ปี ภาพแสดง: ด้วยเงินฝาก BUSD มูลค่า 10, 000 บาท ฝากไป 10 ปี จะกลายเป็น 2, 591, 291 บาท!!! โดยหากนับแต่เฉพาะในส่วนดอกเบี้ยที่ได้รับ สามารถนำไปซื้อบ้านด้วยเงินสด 1 หลัง หรือรถยนต์ด้วยเงินสด 1 คันเลย 6. นำเหรียญคริปโต้ไปฝากไว้ในระบบ LaunchPool เพื่อรับเหรียญเพิ่ม วิธีหาเงินกับ binance ในข้อที่ 6 คือการนำเหรียญที่เราสะสมไว้มาทำกิจกรรมกับระบบที่ชื่อว่า launchPool บน binance ครับ โดยในระบบ launchPool นั้น binance จะคัดเลือกเหรียญจาก Lab Binance มาให้สมาชิกขุดเหรียญได้ โดยข้อดีคือ เหรียญที่ขุดออกมานั้น สามารถขายได้แน่นอนที่กระดานเทรด Binance ซึ่งเหมือนกับเราได้เหรียญเพิ่มขึ้นมาฟรี!